News
ที่มา และความหมาย "เทศกาลไหว้พระจันทร์"
เทศกาลไหว้พระจันทร์คืออะไร

เทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือที่เรียกในภาษาจีนว่า "จงชิวเจี๋ย" (中秋节) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดในวัฒนธรรมจีน รองจากเทศกาลตรุษจีนเท่านั้น เทศกาลนี้จัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน ซึ่งมักจะตรงกับช่วงกลางถึงปลายเดือนกันยายนตามปฏิทินสากล โดยในปี 2567 นี้ จะตรงกับวันที่ 17 กันยายน



ตำนานและประวัติความเป็นมาของเทศกาลไหว้พระจันทร์

ตำนานที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลไหว้พระจันทร์มีหลากหลายเวอร์ชัน แต่เรื่องราวที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดคือเรื่องของ "ฉางเอ๋อร์" (嫦娥) และ "โฮ่วอี้" (后羿)



ตามตำนาน ในอดีตกาลมีพระอาทิตย์ปรากฏบนท้องฟ้าถึง 10 ดวง ทำให้โลกร้อนจัดและเกิดความเดือดร้อนแก่มวลมนุษย์ ราชาโฮ่วอี้ ผู้มีทักษะในการยิงธนูอันยอดเยี่ยม ได้ช่วยมนุษยชาติด้วยการยิงพระอาทิตย์ตกจากฟ้าไป 9 ดวง เหลือไว้เพียงดวงเดียว ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษ



ต่อมา โฮ่วอี้ได้รับยาอายุวัฒนะจากเทพเจ้า แต่เขาไม่ต้องการเป็นอมตะโดยลำพัง จึงมอบยาให้ภรรยาของเขา ฉางเอ๋อร์ เก็บรักษาไว้ ในวันหนึ่งขณะที่โฮ่วอี้ไม่อยู่ ลูกศิษย์ชั่วร้ายนาม "เฝิงเหมิง" (逢蒙) พยายามขโมยยาอายุวัฒนะ ฉางเอ๋อร์จึงตัดสินใจกินยานั้นเสียเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือคนชั่ว



หลังจากกินยา ฉางเอ๋อร์รู้สึกตัวลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและไปสถิตอยู่บนดวงจันทร์ เมื่อโฮ่วอี้กลับมาและทราบเรื่อง เขาเศร้าโศกเสียใจอย่างมาก ในคืนเพ็ญเดือน 8 ซึ่งพระจันทร์เต็มดวงและสว่างที่สุด โฮ่วอี้ได้จัดเครื่องเซ่นไหว้และขนมหวานที่ฉางเอ๋อร์ชื่นชอบไว้ใต้แสงจันทร์ เพื่อรำลึกถึงภรรยาผู้เป็นที่รัก



จากนั้นเป็นต้นมา ผู้คนจึงสืบทอดประเพณีการไหว้พระจันทร์ในคืนเพ็ญเดือน 8 เพื่อระลึกถึงความรักและความเสียสละของฉางเอ๋อร์



เทศกาลไหว้พระจันทร์ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่

ในประเทศจีน เทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นวันหยุดราชการ ผู้คนจะกลับบ้านเกิดเพื่อรวมตัวกับครอบครัว จัดงานเลี้ยงใหญ่ และชมจันทร์เพ็ญด้วยกัน อาหารหลักที่นิยมรับประทานคือขนมไหว้พระจันทร์ หรือ "เยาะเปี่ยน" (月饼) ซึ่งมีหลากหลายไส้ เช่น ถั่วแดง, ไข่แดงเค็ม, งาดำ เป็นต้น



นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ยังมีประเพณีการปล่อยโคมลอย การเต้นรำมังกรไฟ และการแขวนโคมไฟรูปสัตว์ต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล



เทศกาลไหว้พระจันทร์ประเทศไทย

ในประเทศไทย เทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นที่รู้จักและเฉลิมฉลองอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่มีชุมชนชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และนครสวรรค์ แม้ว่าจะไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่เทศกาลนี้ก็ได้รับความสนใจและมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างคึกคัก



ในช่วงเทศกาล ครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนมักจะจัดโต๊ะไหว้เจ้าที่หน้าบ้านหรือในบ้าน วางขนมไหว้พระจันทร์ ผลไม้ตามฤดูกาล และอาหารอื่นๆ เพื่อบูชาพระจันทร์และเทพเจ้า ขนมไหว้พระจันทร์ในไทยมีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ที่ผสมผสานรสชาติแบบไทย เช่น ไส้ทุเรียน, ไส้เม็ดบัว, ไส้ไข่เค็ม, ไส้ธัญพืช, ไส้ถั่วแดง, ไส้ลูกพลัมเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีขนมไหว้พระจันทร์แบบ "หิมะ" ที่เป็นขนมรสชาติหวานนุ่มละมุน ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของขนมไหว้พระจันทร์ที่ได้รับความนิยม



ย่านไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ (เยาวราช) มักจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลนี้ มีการจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่ ประดับประดาด้วยโคมไฟสวยงาม มีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมจีน รวมถึงการจำหน่ายขนมและอาหารพิเศษมากมาย นอกจากนี้ หลายจังหวัดในไทยยังใช้โอกาสนี้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น เทศกาลโคมไฟ หรือการจัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนในท้องถิ่น ทำให้เทศกาลไหว้พระจันทร์กลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ



ความน่าสนใจของเทศกาลไหว้พระจันทร์ในไทยอยู่ที่การผสมผสานวัฒนธรรม ในบางพื้นที่ มีการนำประเพณีไทยเข้ามาผสมผสานกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ เช่น การทำบุญตักบาตรในตอนเช้าก่อนเริ่มพิธีไหว้พระจันทร์ในตอนกลางคืน สะท้อนให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของวัฒนธรรมที่หลากหลายในสังคมไทย



ความเชื่อและการอธิษฐานเป็นอีกส่วนสำคัญของเทศกาล หลายครอบครัวใช้โอกาสนี้อธิษฐานขอพรเพื่อความเจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง และความสุขในครอบครัว โดยมีความเชื่อว่าการอธิษฐานในคืนพระจันทร์เต็มดวงจะมีโอกาสสมหวังมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีประเพณีการแบ่งปันขนมไหว้พระจันทร์ให้กับเพื่อนบ้าน ญาติ และเพื่อนร่วมงาน เป็นการแสดงไมตรีจิตและความปรารถนาดี ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมการแบ่งปันและความเอื้ออาทรของสังคมไทย



การเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ในประเทศไทยจึงเป็นภาพสะท้อนของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมกับวิถีชีวิตแบบไทย ทำให้เทศกาลนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แม้ในหมู่คนไทยที่ไม่ได้มีเชื้อสายจีนก็ตาม



ขนมไหว้พระจันทร์ ทำไมต้องเป็นทรงกลม

ขนมไหว้พระจันทร์ หรือภาษาจีนเรียกว่า "เย่ว์ปิ่ง" เย่ คือ พระจันทร์ ส่วนปิ่ง หมายถึงของกินทรงแบน ปิ้ง ย่าง เผา อบ ลักษณะสำคัญอยู่ที่ทรงต้องแบนเป็นวงกลมรี หรือเป็นเหลี่ยมก็ได้ แต่ต้องไม่เป็นก้อนกลม 



ในวัฒนธรรมจีน “ความกลม” เป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์ และความสามัคคี พระจันทร์เต็มดวง เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง และการกลับมาพบกันของครอบครัว ซึ่งในเทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกคนในครอบครัวจะรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ร่วมกัน หรือมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้ญาติหรือเพื่อนฝูง เพื่อแสดงความรักและความปรารถนาดี



ความหมายดี ๆ ของไส้ขนมไหว้พระจันทร์




  • ไส้เม็ดบัว หมายถึง ความบริสุทธิ์ สงบสุข อายุยืน

  • ไส้ไข่เค็ม หมายถึง ความสุกสว่างเหมือนพระจันทร์ที่เต็มดวง

  • ไส้ธัญพืช หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ และโชคลาภ

  • ไส้ถั่วแดง หมายถึง ความกล้าหาญ การขจัดความกลัว

  • ไส้ลูกพลัม หมายถึง ความหวัง ดุจดอกพลัมที่บานในฤดูหนาว


  • ของไหว้สำหรับพิธีไหว้พระจันทร์

    ในการไหว้พระจันทร์จะคล้ายกับการไหว้เจ้าทั่วไป คือต้องมีธูป เทียน กระถางธูป กระดาษเงิน กระดาษทอง ดอกไม้สด 1 คู่ น้ำชา น้ำบริสุทธิ์ อาหารเจชนิดแห้ง และผลไม้ต่าง ๆ ที่มีชื่อและความหมายมงคล 



    เช่น ทับทิม หมายถึงลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ส้ม หมายถึง ความเป็นมงคล แอปเปิล หมายถึง ความสงบสุข สาลี่ หมายถึง ขอให้มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิต องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน นอกจากนี้ยังมีของไหว้ที่สําหรับใช้ในพิธีไหว้พระจันทร์โดยเฉพาะ ดังนี้



  • ขนมหวาน ควรมีรูปทรงกลม ลักษณะแห่งความกลมเกลียว เช่น ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมเปี๊ยะ หรือขนมโก๋

  • โคมไฟสำหรับจุดไฟ สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองและความหวาน สําหรับจุดไฟเปรียบเหมือนชีวิตที่สว่างไสว

  • ของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง ชุดเครื่องแป้ง เครื่องสําอาง เครื่องประดับ เครื่องแต่งกายของผู้หญิง ตลับแป้ง น้ำหอม อันเป็นการสื่อว่ามีเสน่ห์สวยงามเหมือนพระจันทร์ที่เปรียบเป็นเพศหญิง

  • ต้นอ้อย 1 คู่ สำหรับทำเป็นซุ้มไหว้



ที่มา https://www.thaipbs.or.th/now/content/377